วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Technology

TECHNOLOGY
     ด้วยความทันสมัยที่เกิดขึ้นในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเรื่องของเทคโนโลยีได้กลายเป็นเรื่องสำคัญในการดำรงชีวิตของคนเราไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าไปตรงไหนก็พบเจอแต่เรื่องใหม่ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาตอบสนองความต้องการของมนุษย์เราอยู่ตลอดเวลา ยิ่งในยุคที่เรียกว่า 4.0 แบบนี้เรายิ่งพบเห็นเรื่องต่างๆ รอบตัวกลายเป็นความทันสมัยจนยากจินตนาการว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง ดังนั้นเราลองมาดู 5 เทคโนโลยีในยุคนี้ซึ่งว่ากันว่าช่วยเปลี่ยนชีวิตคนเราให้สบายมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว แถมแต่ละอย่างที่ใช้งานกันอยู่มันคือสิ่งที่เราเห็นจนชินตาไปแล้ว


  5 เทคโนโลยียุค 4.0 ที่เปลี่ยนชีวิตคนเราให้สบายกว่าเดิม


- สมาร์ทโฟน – เทคโนโลยีชิ้นแรกบอกได้เลยว่าต้องเป็นสมาร์ทโฟนเท่านั้น นี่คือสิ่งที่บ่งบอกยุค 0 ได้อย่างน่าสนใจที่สุด แค่ชื่อก็ชัดอยู่แล้วว่ามันคือมือถืออัจฉริยะไม่ใช่แค่การรับสาย, โทรออก, ส่งข้อความ และเล่นเกมงูกินหางแบบในอดีตอีกต่อไป แต่สมาร์ทโฟนในปัจจุบันสร้างความสะดวกสบายให้กับมนุษย์หลายๆ อย่าง เช่น ดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม, สั่งอาหาร, ซื้อของ, ทำงาน ฯลฯ เชื่อว่าหากขาดไปคงขาดใจแน่
- หุ่นยนต์อัจฉริยะ หรือ AI – หากลองสังเกตให้ดีสมัยนี้หลายภาคส่วนเริ่มมีการนำเอาหุ่นยนต์อัจฉริยะมาใช้งานมากขึ้นเพื่อลดปัญหาด้านการขาดแคลานแรงงานรวมถึงยังช่วยให้คนบริหารหรือคนที่ควบคุมทำงานง่ายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เช่น ภาคอุตสาหกรรมการผลิตบางแห่ง, ร้านอาหาร, งานบริการ เป็นต้น
- รถยนต์ – เป็นอีกเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดเริ่มมีการใช้งานรถยนต์ไร้คนขับออกมาแล้ว แม้พึ่งเป็นเรื่องของการทดสอบแต่เชื่อเถอะว่าในอนาคตเราทุกคนจะสบายกับการเดินทางบนท้องถนนที่มีความปลอดภัยแถมไม่ต้องขับเองให้เมื่อย นั่งนอนอยู่ในรถชิลล์ๆ จนถึงที่หมาย
- คอมพิวเตอร์ – แม้หลายคนจะมองว่าคอมพิวเตอร์เริ่มกลายเป็นสิ่งล้าสมัยไปบ้างเมื่อเทียบกับความสะดวกของสมาร์ทโฟน กระนั้นในหลายๆ เรื่องคอมพิวเตอร์ยังทำงานได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนมาก เช่น การเก็บข้อมูล, การทำงานหลายๆ ด้าน เช่น งานออกแบบ, การคำนวณ ฯลฯ ดังนั้นยังถือเป็นเทคโนโลยีแห่งยุค 0 ได้ไม่ยาก
- บรรดาแก็ดเจ็ตต่างๆ – แก็ดเจ็ตหรืออุปกรณ์เสริมด้านไอทีหลายๆ ชิ้นก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในยุคนี้ให้เกิดความสบายด้วยกันทั้งสิ้น อาทิ หูฟังแบบไร้สาย, เมาส์ไร้สาย ฯลฯ เรียกว่าสะดวกกว่าเดิมหลายเท่าตัวเมื่อนำไปใช้งาน

      ต้องบอกว่ายุค 4.0 เป็นยุคที่ทุกอย่างดูทันสมัยไปหมด ดังนั้นผู้ใช้งานเองต้องรู้จักเลือกใช้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

เทคโนโลยีที่ล้าสมัย

- นาฬิกา ข้อมือ
เค้าบอกว่า เดี๋ยวนี้อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์หลายๆอย่าง มีนาฬิกาเป็นฟังก์ชั่นหนึ่งกันเกือบหมดแล้ว ต่อไปนาฬิกาข้อมือจะเป็นเพียงแค่เครื่องประดับ และไม่มีคนใช้ไปในที่สุด
- โทรศัพท์พื้นฐาน
แบบมีสายใช้อยู่กับ ที่ ปัจจุบันทุกคนมีมือถือกันหมดแล้ว
- เครื่องพิมพ์ดีด
เครื่องพิมพ์ดีด เป็นเครื่องกลที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้แทนการเขียนด้วยมือ ทำให้เกิดความสะดวกในการอ่าน และการเผยแพร่ มีลักษณะเป็นแป้นพิมพ์ แล้วใช้คานกระแทกลงบนผ้าคาร์บอน ทับลงบนกระดาษอีกที่หนึ่ง ปัจจุบัน พัฒนาเป็นเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า สามารถพิมพ์ตัวหนังสือได้มากขึ้น
- Walkman
ในยุคสมัยที่ iPod ครองเมืองซะขนาดนี้
- Beeper
หรือที่พวกเราชาวไทย เรียกกันว่า เพจเจอร์นั่นเอง

แหล่งอ้างอิง
http://www.circom-regional.org
https://board.postjung.com
https://www.google.co.th
https://www.youtube.com

เรื่องฝุ่น PM2.5

ฝุ่น PM2.5

PM2.5 คืออะไร?

     คำว่า PM ย่อมาจาก Particulate Matters เป็นคำเรียกค่ามาตรฐานของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่ PM 10 และ PM 2.5 ส่วนตัวเลข 2.5 นั้นมาจากหน่วย 2.5 ไมครอนหรือไมโครเมตรนั่นเอง
    พูดง่ายๆ คือ ฝุ่นละออง PM2.5 เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซต่างๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าถึงจะเป็นเพียงฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว แต่เมื่อมาแผ่อยู่รวมกันจะกินพื้นที่ในอากาศมหาศาล ล่องลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศปริมาณสูง เกิดเป็นหมอกควันอย่างที่เราเห็นกัน
   ฝุ่นละออง PM2.5 ถือเป็นมลพิษต่อสุขภาพของมนุษย์ตามที่องค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญและออกมาแจ้งเตือนให้ทราบ เพราะเป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก เส้นผมที่ว่ามีขนาดเล็กแล้ว เจ้า PM2.5 ยังเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า ทำให้เล็ดลอดผ่านขนจมูกเข้าสู่ปอด และหลอดเลือดได้ง่าย ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว

ข้อแนะนำและวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่นพิษ PM 2.5
1.  ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
2.  หลีกเลี่ยงการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง เผาพื้นที่เพื่อเตรียมการทำเกษตรกรรม เผาขยะ หรือวัสดุเหลือใช้
3.  ควบคุมกระบวนการก่อสร้างให้มีฝุ่นน้อยที่สุด
4.  ออกกำลังกายในที่ร่ม ฝุ่นน้อยๆ และไม่ควรใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกกำลังกาย
5.  รับประทานอาหารเสริม อาหารที่มีวิตามินซี และวิตามินอีสูง เช่น ถั่ว ปลา(มีโอเมก้า 3 มาก)
6.  ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่จำเป็นต้องออกข้างนอกบ้าน หรือที่โล่งแจ้ง ให้ใส่หน้ากากพิเศษชนิดที่เรียกว่า “เอ็นเก้าสิบห้า” โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคระบบการหายใจหรือโรคหัวใจเรื้อรัง สำหรับคนทั่วไปอย่างน้อยให้ใส่ “หน้ากากอนามัย” โดยต้องใส่ให้ถูกต้องวิธี คือ หันด้านที่เป็นสีเขียวและเป็นมันออกด้านนอก ให้ส่วนที่มีแผ่นเสริมความแข็งแรงและช่วยการเข้ารูปอยู่ด้านบนของจมูก สังเกตรอยพับของผ้าด้านหน้าต้องพับลง หากใส่ผิดรอยพับจะกักเก็บฝุ่นละอองในรอยพับ ทำให้หายใจลำบาก
แหล่งอ้างอิง
https://www.honestdocs.co
https://www.youtube.com



ประวัติ/โปรแกรมpython

โปรแกรม Python

ภาษาไพทอน (Python programming language) เป็นภาษาโปรแกรมแบบอินเทอร์พรีเตอร์ ที่สร้างโดย กีโด ฟาน รอสซัม (Guido van Rossum) ในพ.ศ. 2533 ปัจจุบันดูแลโดย มูลนิธิซอฟต์แวร์ไพทอน

จุดเด่นของภาษาไพทอน

     ไพทอนเป็นภาษาสคริปต์ ทำให้ใช้เวลาในการเขียนและคอมไพล์ไม่มาก ทำให้เหมาะกับงานด้านการดูแลระบบ (System administration) เป็นอย่างยิ่ง ได้มีการสนับสนุนภาษาไพทอนโดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการยูนิกซ์, ลินุกซ์ และสามารถติดตั้งให้ทำงานเป็นภาษาสคริปต์ของวินโดวส์ ผ่านระบบ Windows Script Host ได้อีกด้วย และ Python เองก็ได้ถูกนำมาพัฒนา Web application อย่างแพร่หลาย ซึ่งมี Framework สำหรับทำเว็บของ Python ที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ Djangoไวยากรณ์อ่านง่ายไวยากรณ์ของไพทอนได้กำจัดการใช้สัญลักษณ์ที่ใช้ในการแบ่งบล็อกของโปรแกรม และใช้การย่อหน้าแทน ทำให้สามารถอ่านโปรแกรมที่เขียนได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีการสนับสนุนการเขียน docstring ซึ่งเป็นข้อความสั้นๆ ที่ใช้อธิบายการทำงานของฟังก์ชัน, คลาส, และโมดูลอีกด้วยความเป็นภาษากาว      ไพทอนเป็นภาษากาว (Glue Language) ได้อย่างดีเนื่องจากสามารถเรียกใช้ภาษาโปรแกรมอื่นๆ ได้หลายภาษา ทำให้เหมาะที่จะใช้เขียนเพื่อประสานงานโปรแกรมที่เขียนในภาษาต่างกันได้ไลบรารีในไพทอน


    การเขียนโปรแกรมในภาษาไพทอนโดยใช้ไลบรารีต่าง ๆ เป็นการลดภาระของโปรแกรมเมอร์ได้เป็นอย่างดี ทำให้โปรแกรมเมอร์ไม่ต้องเสียเวลากับการเขียนคำสั่งที่ซ้ำๆ เช่นการแสดงผลข้อมูลออกสู่หน้าจอ หรือการรับค่าต่าง ๆ

แหล่งอ้างอิง

https://mindphp.com

https://www.google.co.th

https://www.youtube.com

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

Final

เทคนิคการทำข้อสอบโดยสุจริต

       สิ่งที่คำนึงถึงในเวลาใกล้จะสอบคือ การอ่านหนังสือ และ การทบทวนบทเรียนเก่าๆ เราควรเตรียมตัวอ่านหนังสืิอ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนสอบ แล้วพอถึงวันที่จะสอบ เราก็ทบทวนนิดๆหน่อยๆ แล้วนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

เทคนิคการทำข้อสอบ  

1. ตัดช้อยส์ : ตัดตัวเลือกที่ไม่ถูกหรือไม่ใช่แน่ๆออกไปก่อน แล้วมาหาข้อที่ถูก
2. ไม่มีข้อใดถูก มักเป็นตัวเลือกหลอก : ถ้ามีช้อยส์นี้ข้อมาให้ตัดออกไปได้เลย เพราะการคิดช้อยส์ให้ผิดยากกว่าคิดช้อยส์ให้ถูก
3. คำตอบท่แย้งกันเอง มักจะมีข้อใดข้อหนึ่งถูก : ลองสวมบทบาทคนออกข้อสอบดู เมื่อใส่คำตอบที่ถูกต้องไปแล้ว พอคิดคำตอบที่ผิดขึ้นมาก็มักจะสร้างคำตอบที่ตรงกันไว้ก่อน เรียกว่า เป็นช้อยส์คู่ขนาน
4. ช้อยส์ที่มีความหมายเหมือกัน ตัดทิ้งเลย : ช้อยส์ที่มีเนื้อหาเหมือนกันให้ตัดทิ้ง
5. ข้อที่ทำไม่ได้ ให้ข้ามไปก่อน : หากข้อนั้นทำไม่ได้จริงๆ ให้ข้ามไปทำข้ออื่นก่อน
6. ทิ้งดิ่ง : เมื่อขอที่เหลือไม่สามารถต้ดช้อยส์ได้ ให้ทิ้งดิ่ง โดยมีหลักการทิ้งดิ่งว่า ต้องเป็นข้อที่มีคำตอบน้อยที่สุด

แนวทางการประกอบอาชีพในอนาคต

“การเลือกทางศึกษาต่อขอให้คิด อย่าหลงผิดตามเพื่อนหนอเป็นข้อใหญ่
ควรคำนึงถึงปัญญาทุกท่านไป ว่าทางไหนเราถนัดจัดว่าดี
อีกทั้งความสนใจและความชอบ จะประกอบให้เราเด่นเป็นศักดิ์ศรี
ทั้งเรื่องทุนการศึกษาปัญหามี ทั้งหมดนี้ควรวิเคราะห์ให้เหมาะเอย”

แนวทางการประกอบอาชีพ

1. ต้องรู้จักตนเอง : ความชอบหรือความสนใจ =  ในการเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับตนเอง เราควรนำเอาผลการสำรวจในด้านต่าง ๆ มาประมวลเพื่อประกอบการพิจารณา เช่น มีบุคลิกภาพแบบใด ความสามารถด้านใด ชอบทำกิจกรรมอะไร สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราพิจารณาตนเองได้ว่าเราควรประกอบอาชีพอะไร
                                 ความถนัด = การที่บุคคลจะวางแผนในอนาคตได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับตัวเองได้นั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญคือบุคคลต้องรู้จักความถนัดของตนเอง ทุกคนมีความถนัดในแต่ละด้านแตกต่างกันไป เมื่อเราทำสิ่งใดได้ดีก็จะทำให้เรามีความสุข และเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง
                                 สติปัญญาและความสามารถ = การที่จะดูว่าสติปัญญาหรือความสามารถดีไม่ดี อาจดูได้จากระดับคะแนนหรือผลการเรียนที่ผ่านมาในสมุดรายงานประจำตัวนักเรียนดูว่าในแต่ละวิชาที่สอบไปแล้วได้ระดับคะแนนหรือผลการเรียนเป็นอย่างไร ถ้าได้ระดับการเรียนหรือผลการเรียนในวิชานั้นสูง ก็แสดงว่าระดับสติปัญญาหรือความสามารถในการเรียนวิชานั้นสูง 
                                 ค่านิยม = การที่บุคคลจะวางแผนอนาคตได้อย่างถูกต้องกับเหมาะสมกับตนเองได้นั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญมากก็คือ ต้องรู้ค่านิยมในงานที่ตนยึดไว้เป็นหลักสำคัญ  
                                 รูปร่างและลักษณะของร่างกาย = สถานศึกษาหลายแห่งกำหนดคุณสมบัติเกี่ยวกับรูปร่าง และลักษณะของทางร่างกายไว้ด้วย   
                                 เป้าหมายในอนาคต =  ควรตั้งเป้าหมายในอนาคตว่าต้องการประกอบอาชีพใด เพื่อจะได้ศึกษาต่อในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับอาชีพที่นักเรียนสนใจ มีความถนัดและสอดคล้องกับบุคลิกภาพของตน 
                                 ผู้ปกครอง = การที่นักเรียนจะเลือกศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพ ควรขอคำปรึกษาจากบิดา มารดา เสียก่อน เพื่อช่วยชี้แนะแนวทางให้เราตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
2. ต้องรู้จักสิ่งแวดล้อม : ต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ศึกษาต่อว่า ที่ตั้งระยะทางไป-กลับระหว่างที่พักกับสถานศึกษา ระเบียบการ หลักสูตร คุณสมบัติที่ต้องการ สวัสิการ ค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไร หรือข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพ ลักษณะงาน และอาชีพดังกล่าวในอนาคตอันเป็นใกล้เป็นที่ต้องการของการตลาดมากน้อยเพียงใด

โตขึ้นอยากเป็น มิเดียอาตส์-ออกแบบกราฟฟิก




แหล่งอ้างอิง 
- http://www.unigang.com/Article/163
- https://www.wegointer.com/2014/09/exam-16/




วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2561

International food

INTERNATIONAL FOOD

1. Fish & Chips (ฟิชแอนด์ชิปส์)

       ปลาชุบแป้งทอดเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอด เป็นหนึ่งในเมนูประจำชาติอังกฤษที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนจานอร่อยสุดคลาสสิกนี้ก็คงได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย เพราะเป็นอาหารที่ทำง่าย กินง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ขึ้นโต๊ะทีไรก็หมดเกลี้ยงทุกที 








2. Ratatouille (ราทาทุย)

ราทาทุย หรือ แรททาทูอี เป็นอาหารพื้นเมืองของฝรั่งเศส โดยมีลักษณะเป็นสตูว์ผัก มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Nice ทานตอนใต้ของฝรั่งเศส อาหารชนิดนี้มีชื่อเต็มว่า ratatouille ni?oise คำว่า ratatouille มาจากภาษาอ็อกซิตันว่า "ratatolha" ราทาทุยปัจจุบันพบเห็นได้ที่ Occitan Proven?a และ Ni?a โดยมักจะทำในหน้าร้อนโดยใช้ผักในฤดูร้อน Ratatolha de Ni?a สูตรดั้งเดิมนั้นจะใช้เพียงแค่ ซุชีนี่, มะเขือเทศ, พริกหยวกแดงและเขียว, หัวหอม, และกระเทียม ราทาทุยในปัจจุบันจะมีการใส่มะเขือลงไปในส่วนผสมด้วย ปกติราทาทุยจะเสิร์ฟเป็นอาหารข้างเคียงกับอาหารหลัก หรือบางครั้งก็เสิร์ฟเป็นอาหารหลักบนโต๊ะอาหาร

3. Cheeseburger (ชีสเบอร์เกอร์)

Cheeseburger อาจจะหาได้ง่ายในอเมริกา แต่คลาสสิคชีสเบอร์เกอร์ต้องที่ California ที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจน๊าาา โดยย่างเนื้อเบอร์เกอร์แล้วเอาชีสมาปิดเนื้อเบอร์เกอร์และในที่สุดก็เป็นเนูยอดฮิตจนมาถึงปัจจุบัน


แหล่งที่มา

- https://www.hotcourses.in.th/study-in-the-uk/once-you-arrive/9-popular-british-food-searched-on-google/
- https://www.thaifly.com/
- https://iceallaround.wordpress.com/

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

1.ขั้นระบุปัญหา 

    แก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ลดการใช้น้ำมัน

2. ขั้นรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา

    เป็นสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ที่ใช้หนังยางเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน ประดิษฐ์ขึ้นจากวัสดุที่มีอยู่ใกล้ตัวเรา สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเกี่ยวกับความเร็วหรือ การเพิ่มระยะทางในการวิ่งของรถได้

3. ขั้นออกแบบวิธีการแก้ปัญหา

    ออกแบบรถที่ใช้การดีดของหนังยางมาเป็นต้นแบบของปัญหาก่อน เพราะรถคันนี้ ไม่ใช้น้ำมัน และยังไม่ก่อให้มีมลพิษทางอากาศอีกด้วย

4. ขั้นวางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา

     เป็นการกำหนดลำดับขั้นตอนของการสร้างชิ้นงานหรือวิธีการ แล้วลงมือสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการเพื่อใช้ในการแก้ปัญหา



5. ขั้นทดสอบ



   เป็นการทดสอบและประเมินการใช้งานของชิ้นงานหรือวิธีการ โดยผลที่ได้อาจนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมที่สุด

6. ขั้นนำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหา หรือชิ้นงาน

    เป็นการนำเสนอแนวคิดและขั้นตอนการแก้ปัญหาของการสร้างชิ้นงานหรือการพัฒนาวิธีการ ให้ผู้อื่นเข้าใจและได้ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาต่อไป

แหล่งอ้างอิง

http://designtechnology.ipst.ac.th
https://www.youtube.com/watch?v=0gjIsmhcI98
http://sanookwit.com

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ประวัติรัชกาลทีี่ 10

1. พระนามเต็ม :

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย  วรางกูร



2. ประวัติรัชกาลที่ 10 :  



พระนามเดิมพระองค์ เดิมว่า สมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรง สุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร  พระองค์ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ เมื่อเวลา ๑๗ นาฬิกา ๔๕ นาที ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต











การศึกษา

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎ
ราชกุมาร ทรงได้รับการศึกษาระดับอนุบาลศึกษาที่พระที่นั่งอุดร พระราชวังดุสิต และทรงเข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนจิตรลดา ระหว่างพุทธศักราช ๒๔๙๙ –๒๕๐๕ ที่ประเทศอังกฤษระหว่างพุทธศักราช ๒๕๐๙ – ๒๕๑๓

 3. พระราชกรณียกิจ : 

พระราชกรณียกิจ : ด้านทหาร
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ทรงรับราชการทหารมาโดยตลอด นับแต่เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2518 ทรงเข้าเป็นนายทหารประจำกรมข่าวทหาร บก กระทรวงกลาโหม วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2521 ทรงดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองพันทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 ทรงดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2427 ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการ กรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ วันที่ 30 กรกฏาคม พ.ศ. 2531 ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2535 ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด
พระราชกรณียกิจ : ด้านการกีฬา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ทั้งในฐานะผู้แทนพระองค์และในส่วนของพระองค์เองนานัปการ เช่น การพระราชทานไฟพระฤกษ์ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักกีฬาไทยผู้นำความสำเร็จนำเกียรติยศมาสู่ประเทศ ชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม รับพระราชทานพร และทรงแสดงความชื่นชมยินดี ซึ่งนักกีฬาของไทยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีความปลาบปลื้มในสิริมงคลและมีขวัญกำลังใจที่จะนำความสำเร็จและนำเกียรติยศ มาสู่ตนเอง สู่วงศ์ตระกูล และประเทศชาติต่อไป






























พระราชกรณียกิจ : ด้านการพระศาสนา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ได้ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509 ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ และมีพระราชศรัทธาทรงออกผนวชในพระบวรพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 ระหว่างทรงผนวช ทรงศึกษา และปฎิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปปฏิบัติพระราชกิจทางศาสนาเป็นประจำเสมอ เช่น ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามฤดูกาล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา


 

4. บทเพลงสดุดีจอมราชา :






5. ความคิดเห็นรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ :

เราทุกคนต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ของตนเองให้มาก เราต้องสำนึกในพระมหากรุษาธิคุณ สำนึกชาติ บ้านเมือง กว่าจะมีทุกวันที่ ไม่ง่ายเรย ต้องผ่านเรื่องราว อุปสรรคต่างๆมากมาย กว่าชาติบ้านเมืองเราจะสงบสุขจนถึงทุกวันนี้ เราควรทำแต่ความดี ทำความดีให้แก่ชุมชน สังคม บ้านเมืองเรา เราควรเป็นแบบอย่างที่ดี ให้แก่ รุ่นลูกรุ่นหลานสืบต่อไป 

แหล่งอ้างอิง :

https://sites.google.com/site/danupat2003/phra-rach-krniykic-r-10
https://news.mthai.com/webmaster-talk/525488.html
https://www.youtube.com/watch?v=d9_8RkSoXuE


Technology

TECHNOLOGY       ด้วยความทันสมัยที่เกิดขึ้นในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเรื่องของเทคโนโลยีได้กลายเป็นเรื่องสำคัญในการดำรงชีวิตของคนเราไปเร...